ทำ Google Adsense ต้องระวังอะไรบ้าง

1ห้ามวาง Google AdSense ในเว็บไซต์ต้องห้าม ดังต่อไปนี้

- เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย
- เว็บไซต์การพนัน คาสิโน
- เว็บไซต์ภาพลามก อนาจาร
- เว็บไซต์ที่มีคำหยาบคาย
- เว็บไซต์กลุ่มต่อต้าน หรือ องค์กรที่ใช้ความรุนแรง หรือ ก่อการร้าย
- เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับ Hacking หรือ Cracking
- เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการโฆษณามากเกินไป เพื่อโฆษณาเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเนื้อหาอย่างอื่นเลย
- เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับ ยา และ อุปกรณ์การแพทย์ที่ผิดกฎหมาย
- เว็บไซต์ Spam Keyword
- เว็บไซต์เนื้อหาที่ผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์ หรือ ปลอมแปลงสินค้า
- เว็บไซต์อาวุธสงคราม
- เว็บไซต์เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- เว็บไซต์บุหรี่




กฎ กติกา ในการวางโฆษณา Google AdSense ในแต่ละหน้าเว็บเพจ สามารถวางโฆษณาได้ ดังนี้

แหล่งข้อมูลการทำ SEO

บทความนี้ผมขอเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลดี ๆ สำหรับผู้ที่สนใจทำงานผ่านเน็ต ครับ
เว็ปดี ๆ มีเยอะ ขอรวบรวมเรื่อย แล้วกันนะครับ

• Thaiseoboard
• Seoaccessories
• แนะนำวิธีการตั้งค่าโดเมนเพื่อนำมาใช้กับ Blogger  
• ขยายธุรกิจการโฆษณาออนไลน์ของคุณ
• IT Street
• ตรวจสอบชื่อใหนที่มีคน ค้นมากสุด
• Thailand Search Engine Marketing Club - SEM
• hackublog
• blogger-assistant

สมัคร Adsense ใช้เวลาอนุมัตินานมากๆ มีวิธี

ช่วงนี้เห็นมือใหม่หลายๆคนบ่นกันว่าสมัคร Adsense ผ่านยาก อย่างผมและท่านอื่น ๆ รอคำตอบอยู่ว่าเมื่อไร จะอนุมัติเสียที บางท่านรอหลายเดือนก็มี บางท่านก็รอไม่นาน บางท่านก็สมัครไว้หลายรอบ  บางคนก็มีเทคนิคโดยเปลี่ยน e- mail  เปลี่ยนที่อยู่ใหม่, ใช้ blogger + unique content ภาษาไทย
บางคนแนะนำให้ สมัครผ่าน Flixya เท่าที่เห็นบางคนนานถึง 3 เดือน


   สำหรับผม
           เริ่มสมัคร Adsense วันที่ 30 มีนาคม 2554   รออนุมัติอยู่
           วันที่สอง 31 มีนาคม  2554 เข้ามาดู ยัง รออนุมัติอยู่
           วันที่สาม 1 เมษายน  2554 เข้ามาดู ยัง รออนุมัติอยู่
           วันที่สาม 2 เมษายน  2554 เข้ามาดู ยัง รออนุมัติอยู่
           วันที่สาม 3 เมษายน  2554 เข้ามาดู ยัง รออนุมัติอยู่
          วันที่สาม 4 เมษายน  2554 เข้ามาดู ยัง รออนุมัติอยู่
           ......
        {  วันที่ 6 เมษายน 2554 google ได้ส่งจดหมายมาแล้วไม่ผ่านครับ }
        
        

          

สงสัยว่าจะไม่ผ่านแล้ว ลองหาวิธีใหม่ดีกว่า
ผมคงต้องรอต่อไปดูสักระยะหนึ่ง  ก่อนเดียวมาให้คำตอบ Zzzz
เอาว่ะ ขณะที่รออยู่นี้ ลองหาวิธีอื่นเตรียมไว้ก่อน

วีดีโอสอนการใช้งาน Blogger

สำหรับผู้ที่ยังใช้งาน Blogger ไม่เป็นเรามีวีดีโอให้ดู  แล้วลองทำตามเลยครับ
เริ่มดูกันเลยครับ

บทที่ 1

บทที่ 2

วิธีห้ามไม่ให้ผู้ชมบล็อกคลิกขวาในบล็อก

ขั้นตอนที่ 1. เข้าสู่บล็อกแล้วเลือกที่ การออกแบบ > องค์ประกอบของหน้า

ขั้นตอนที่ 2. ให้เลือกเพิ่ม Gadget แบบ HTML/จาวาสคริปต์

ขั้นตอนที่ 3. คัดลอกโค้ดด้านล่างนี้ใส่ลงไปในช่อง และกดบันทึกก็เสร็จแล้ว

7 เซียน "เศรษฐีออนไลน์"

วันนี้ได้อ่านหนังสือ(เส้นทางเศรษฐี) ไปเจอบทความของ วรวิทย์  ไชยทิพย์
ก็เลยเอามาให้อ่านกัน


1.    ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ฉายาของเขาคือเจ้าพ่อ E-commerce เมืองไทยเจ้าของเว็บไซต์                http://www.tarad.com/  เว็บสำเร็จรูปขายสินค้าและให้บริการด้านอื่น ๆ อีกมากมายทั้งจดโดเมนเนม เช่าโฮลต์ โฆษณา บริการช่องทางชำระเงิน อบรมสัมมนา ผลิตหนังสือ ฯลฯ เขาจบปริญญาตรี สถาปัตยกรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยรังสิต ปริญญาโท 2 ใบ ด้าน internet & E-commerce ติดตามผลงานเขาได้ที่ http://www.pawoot.com/

2.   ตราวุฒิ  เหลืองสมบูรณ์  เป็นนักการตลาดแอฟฟิลิเอท อันดับต้น ๆ ของไทยครั้งหนึ่งในงานสัมมนาผมเคยเห็นเขาโชว์เช็คเงินสดจากเว็บที่เขาทำการตลาดให้จำนวน 60,000 เหรียญ(ประมาณ 2 ล้านบาท) สามารถส่งลูกค้ามาลงสมัครลงโฆษณากับกูเกิ้ล google Adword จำนวน 1,000,000 รายจนได้ใบรับรองจากกูเกิ้ล

3.  ชาญวิทย์  จตุวีรพงษ์      อดีตโปรแกรมเมอร์ของตลาดหลักมรัพย์และเขียนโปรแกรมให้กับบริษัทใหญ่หลายแห่ง ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่  แคนาดา เจ้าของ web http://www.thaiadpoint.com/ เป็นสื่อกลางให้กับผู้ลงโฆษณาและผู้เข้าชมเว็บ สร้างรายได้ให้กับผู้เล่นเน็ตเว็บนี้ มีสมาชิกกว่า 300,000 คน มีรายได้ขนาดใหน เอาเป็นว่าเขาและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศได้อย่างไม่เดือดร้อนก็แล้วกัน

4.   จอห์น เรดเตอร์ เป็นชื่อในวงการเจ้าของเว็บ http://www.redtor.com/ บล็อกเกอร์จากเมืองอุบลราชธานี เจ้าของสถิติหาคนเข้าเว็บได้มากสุด 40,000 คนต่อวันได้เงินจาก Adsense มากสุด 46,000 บาทต่อเดือนได้เงินจาก Amazon มากสุด 210,000 บาทต่อเดือน โดนแบนจากเจ้าของเว็บหลายครั้ง มีลีลาการเขียนบล็อกที่ยียวนกวนใจ  ชอบแต่งเพลงและนำมาโพสต์ให้ฟัง

5.     สิทธิศักดิ์  บุญมาก ผู้เขียนหนังสือสอนให้รวยด้วย Amazon เจ้าของเว็บ http://www.makemany.com/ บล็อกการตลาด  นำเสนอข้อมูลข่าวสาร เทคนิคและกลยุทธ์ในการทำการตลาดออนไลต์ ปรับแต่งเว็บให้ติดอันดับการค้น SEO สร้างรายได้กับ Amazon ตัวเลขที่โชว์บนเว็บ เขาเคยทำได้ 5000-8000 $ ต่อเดือน

6.    พิมพ์พร  นรินทร์โท เจ้าของเว็บ http://www.ilearn.in.th/ แหล่งรวมความรู้ทางด้าน internet Marketing learning Center  สอนวิธีการเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลต์ สร้างรายได้จาก Amazon Associates

7.    พีร์  บุญชนะวิวัฒน์ เป็นเซียนหุ้นเจ้าของหนังสือขายดี เทคนิคฟันกำไร  หุ้นเดย์เทรด เขเป็น Proprietary Trader  ให้กับบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งอาชีพนี้เปรียบเสมือนมือปืนรับจ้างที่คอยลั่นทำกำไรจากตลาดหุ้น ให้กับผู้จ้างวาน  ติดตามผลงานได้ที่ http://wizard-kid2m.blogsport.com/

Faster Web Page Load Time

We share with you what we have been doing to improve the page loading time of our Blog. If a web page takes too long a time to load, the readers will simply hop on to another site. Making it load quickly also saves the dial-up internet users' money and time. While it is true that the download time depends on the readers' internet connection speed, we can as Blog owners tweak our layout and source code to speed up the page download.

There are online tools that you can use to check the download time of your Blog. We used this Website Speed Test to check the load time of our 3 Blogs. You can enter a maximum of 10 web addresses. It will show you the page size, load time, and average speed per KB. This is what we got:-

Backup template มีด้วยเหรอ

อันนี้ผมก็คิดอยู่ตั้งนานว่ามันจะมีระบบ สำรองข้อมูลหรือปล่าว ถ้าไม่มีนี้ตายเลย
ทำมาตั้งนาน บทความที่ทำไว้มากมายหายหมด จะทำยังงัย


โชคดีครับ Blogger มีระบบสำรองข้อมูลให้มาด้วย แล้วมันอยู่ใหน เรามาดูขั้นตอนกันนะครับ

ไปที่ แผงควบคุม >ออกแบบ > แก้ไข HTML >>คลิกที่ข้อความ “ดาวน์โหลดแม่แบบฉบับเต็ม”
 ดังรูป

จากนั้นเราก็ save ตั้งชื่อไฟล์ เก็บไว้ในเครื่องเรา ไฟล์จะมีนามสกุล .xml ไฟล์นี้ก็คือไฟล์ Template ของเรานั่นเองครับ

Restore  การเรียกคืน

เริ่มสมัคร AdSense

เนื่องจากใจร้อน ทำบทความมาได้ซักพัก ก็เลยอยากรู้ว่าได้เงินจาก Google ต้องทำยังงัย
เขาบอกว่าให้สมัคร Adsense เพื่อลงโฆษณาก็เลย ลองทำดู


เริ่มทำตามขั้นตอนได้เลยครับ

ไปที่หน้า สร้างรายได้ตามรูปแล้วเลือกรูปแบบการแสดง

นาฬิกาแปะ Blog ก็ดูเก๋ไก๋

อยากจะเพิ่มสีสรรให้กับ Blog ก็เลยไปเจอเว็ป นาฬิกา ลองใส่นาฬิกาเข้าไปดูมันจะเป็นยังงัยและในเว็ปยังมีของเล่นอื่น ๆ อีกลองเล่นดูนะครับ
ลองทำดูตามขั้นตอนได้เลยครับ


ขั้นตอน

• เข้าเลือก นาฬิกา ไป web นี้
• เข้าเลือกปฎิทินเข้าเว็ปนี้
• เมื่อเข้าไปแล้วให้ copy Code ไว้ เช่น

<eMbEd type="application/x-shockwave-flash" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer" name="flashplayer" src="http://www.5fever.com/calendars/swf/thanksgiving3.swf" quality="high" width="260" height="210" swliveconnect="true" allowscriptaccess="samedomain"></eMbEd>

กดที่ Gadgats แล้วเลือกข้อความ

Google Gadgets คืออะไร

เห็นข้อความในหน้าออกแบบเลยสงสัยว่า Gadgets มีไว้ทำอะไรก็เลยไปค้นข้อมูล ความหมายมันคืออะไร ลองอ่านดูนะครับ

Google Gadgets คือ แอพลิเคชั่น(โปรแกรมที่ใช้โประโยชน์ได้)เล็กๆ ที่ทำงานกับ Google homepage,
Google Desktop, หรือหน้าใดหน้าหนึ่งบนเว็บฯ Gadgets เหล่านั้นอาจจะเป็นแค่โค๊ด HTML ง่ายๆ ไปจนถึงแอพลิเคชั่นที่สลับซับซ้อน
ซึ่งสามารถจะเป็นได้ทั้ง ปฏิทิน พยากรณ์อากาศ แผนที่ลูกโลก media player หรือสิ่งไดๆ ก็ได้ที่เราฝันจะให้มันเป็น ...

Google Gadgets จะมี 2 รูปแบบ คือ

1. Universal gadgets และ
2. Desktop gadgets

ทำไมต้องสร้าง Universal gadget?

• ทำงานบน WebPages ที่เราเป็นเจ้าของ HTML Source code เอง, และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เป็นของ Google (Personalized Homepage, Google Desktop, Google Page Creator, Blogger)
• ง่ายต่อการสร้าง - ไม่จำเป็นต้อง Downloads, ไม่ต้องหาห้องสมุดเพื่อค้นคว้า, และไม่ต้องร้องขอจาก Web server
• เขียนด้วย HTML และ/หรือ JavaScript

ทำไมถึงไม่สร้าง Universal gadget?

• ปัญหาเรื่องข้อจำกัดของ สภาพแวดล้อมของ Browser แบบต่างๆ
• มันจะไม่ทำงานเมื่อผู้ใช้ Offline

วิธีสร้าง WelCome Page บน Blogger

อันนี้ไปอ่านเจอมาจากเวป hackublog   ก็เลย คิดว่าสักวันต้องใช้ใน Blog นี้ก็เลยเอามาให้ดูขั้นตอนการทำกัน

 

ที่มาจากเวป : hackublog  

 

 

blog คืออะไร หาเงินได้อย่างไร

Blog ก็คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal)ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่าง ๆ เช่น เรื่องการเมืองเรื่องกล้องถ่ายรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทำให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของตนเอง ใส่ลงไปในบทความนั้น ๆ โดยบล็อกบางแห่งจะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน บางบล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะ เช่นกลุ่มเพื่อน ๆ หรือครอบครัวตนเอง อันนี้คุณเก่งเค้าบอก อ่านลึกๆ

ที่นี่
บล็อก (อังกฤษ: blog) หรือ เว็บล็อก (weblog) เป็นหน้าเว็บประเภทหนึ่ง ซึ่งคำว่า blogย่อมาจากคำว่า weblog หรือ web log โดยคำว่า weblog นั้นมาจาก web (เวิลด์ไวด์เว็บ)และ log (ปูม, บันทึก) รวมกัน หมายถึง บันทึกบนเวิล์ดไวด์เว็บ

ขั้นตอนเอา Google Translate translation มาใส่ใน blogger

Google Translate™ translation service ได้ออกเครื่องมือ
นำเสนอการแปลภาษาอัตโนมัติ ให้คนดูต่างประเทศ


สนใจสามารถเข้าไปที่เว็บ http://translate.google.com/translate_tools?hl=en เพื่อเอาโค๊ดสำหรับติดตั้งลงในเว็บ, blogger

ทำปุ่มอ่านต่อง่าย ๆ ใน Blogger

เนื่องจากบทความหรือข้อความ ที่มีความยาวตัวอักษรมาก ๆ
นอกจากจะทำให้หน้าแรกโหลดช้าแล้วยังทำให้หน้าจอ ยาวเกินความจำเป็น


ประโยชน์ของปุ่ม อ่านต่อ>> (Read more>>)

• ทำให้หน้าแรกโหลดเร็วขึ้น
• หน้าจอดูสะอาดขึ้น
• สามารถเช็คได้ว่า ผู้ชมส่วนใหญ่ สนใจบทความไหน
• หากใช้ Google Adsense™ advertising program ปุ่มอ่านต่อ>> (Read more>>) ทำให้ผู้ชม ที่สนใจบทความตัวเต็มเข้าไปชมบทความนั้น และได้ดู Advertisment ที่ตรงกับความสนใจ

ใน Blogger มี function ให้เราสามารถใส่ปุ่ม อ่านต่อ>>ได้ง่ายเลย
เดียวเรามาดูขั้นตอนกันนะครับ

คนแรกและสิ่งแรกของไทย

กษัตริย์ไทยพระองค์แรก (พ่อขุนศรีอินทราทิตย์)

นายกรัฐมนตรีคนแรกของไทย (พระยามโนปกรณ์นิติธาดา)

ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนแรกของไทย (เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี)

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหญิงคนแรกของไทย (นางอรพินท์ ไชยกาล)

อธิบดีหญิงคนแรกของไทย (คุณหญิงอัมพร มีศุข อธิบดีกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ)

มันมาจาก FaceBook ภาค 1

10 นิสัยของ Yahoo และ Google ขำดีมีสาระ

จากประสบการณ์ตรงของผู้ที่ข้องแวะกับ Search Engine ยักใหญ่ทั้งสองแห่งนี้ ทำให้ได้พบอะไรหลายอย่างที่น่าสนใจ และเชื่อว่าหากเราเข้าใจมันก็ไม่ยากที่จะเข้ามาเล่นในสนามรบแห่งนี้ ลองมาดู กันว่ามีอะไรบ้าง        


- Google เป็นคนใจง่าย ไม่ว่าเราจะเป็นคนยังไง Google ก็มักจะเก็บเราเป็นส่วนหนึ่งในใจเขาตั้งแต่แรกพบ ต่างกับ Yahoo ที่กว่าจะรู้จักเราช่างนานเสียจริง        

- Yahoo มองคนที่ชื่อ ไม่ว่าคุณจะมีรูปร่างหน้าตาห่วยแค่ไหน หากเพียงชื่อคุณมันโดนใจ Yahoo ก็มักจะลำเอียงไปหา